วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551
วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551
พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววารของวันคืน
ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทาน ต้องร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนให้สุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องให้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปรอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ยล เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววารของวันคืน
ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทาน ต้องร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนให้สุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องให้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปรอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ยล เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง
แม้นโลกไร้แสงทองสาดส่องหล้า
ขอเป็นแสงชวาลานำพาฝัน
เปล่งประกายส่องทางดุจกลางวัน
ให้เจ้านั้นก้าวย่างอย่างปลอดภัย
แม้นโลกไร้เพ็ญแขส่องแลโลก
ยามเจ้าโศกโศกาอุราไหว
จักแปลงเป็นหิ่งห้อยมาร้อยใจ
กระพริบไฟดับทุกข์รุกกมล
แม้นโลกไร้ดารามาแต่งแต้ม
เมฆหมอกแกมซ่อนซุกทุกแห่งหน
คืนเหน็บหนาวยาวนานเกินทานทน
จักเป็นคนเอื้ออุ่นละมุนมาน
แม้นโลกไร้ร้างลับสรรพเสียง
จะคอยเคียงเรียงร้อยถ้อยคำหวาน
เอื้อนวจีปลอบขวัญเช่นวันวาน
ตราบสุดกาลจักกลืนกินสิ้นเวลา
แม้นโลกไร้ผืนดินถิ่นอาศัย
จักถอดใจให้ยืนแทนผืนหล้า
แม้นสายชลเหือดแห้งแล้งธารา
จักหลั่งเลือดและน้ำตาให้กลืนกิน๚ะ๛
ขอเป็นแสงชวาลานำพาฝัน
เปล่งประกายส่องทางดุจกลางวัน
ให้เจ้านั้นก้าวย่างอย่างปลอดภัย
แม้นโลกไร้เพ็ญแขส่องแลโลก
ยามเจ้าโศกโศกาอุราไหว
จักแปลงเป็นหิ่งห้อยมาร้อยใจ
กระพริบไฟดับทุกข์รุกกมล
แม้นโลกไร้ดารามาแต่งแต้ม
เมฆหมอกแกมซ่อนซุกทุกแห่งหน
คืนเหน็บหนาวยาวนานเกินทานทน
จักเป็นคนเอื้ออุ่นละมุนมาน
แม้นโลกไร้ร้างลับสรรพเสียง
จะคอยเคียงเรียงร้อยถ้อยคำหวาน
เอื้อนวจีปลอบขวัญเช่นวันวาน
ตราบสุดกาลจักกลืนกินสิ้นเวลา
แม้นโลกไร้ผืนดินถิ่นอาศัย
จักถอดใจให้ยืนแทนผืนหล้า
แม้นสายชลเหือดแห้งแล้งธารา
จักหลั่งเลือดและน้ำตาให้กลืนกิน๚ะ๛
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)